รอยพระประวัติ
กรมหลวงชุมพรฯ
ภาพถ่าย ภาพวาด และรายละเอียดมากมายในเอกสารจดหมายเหตุ จากแหล่งค้นคว้าหลายแห่งในประเทศอังกฤษ
ทำให้เราสามารถมองย้อนอดีตได้อย่างแจ่มชัดขึ้น ถึงความเป็นไปในพระประวัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทรงฝึกหัดศึกษาในเรือรบอังกฤษ


สมุดปูมของ G.M.R. Rayne นักเรียนทำการนายเรือประจำเรือรีเวนจ์
ระหว่างกันยายน 1897 ถึง กุมภาพันธ์ 1899 ซึ่งคือช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกัน
กับการทรงฝึกศึกษาของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ปัจจุบันสมุดปูมเล่มนี้ ถูกเก็บรักษาอยู่ที่
หอจดหมายเหตุของ National Maritime Museum


ระหว่างทรงเป็นนักเรียนทำการนายเรือ
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ย่อมทรงเคยเขียนปูม
ซึ่งมีรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งข้อมูล
และภาพวาดพระกอบมากมายอย่างนี้เช่นเดียวกัน
ผลการทดสอบ “วิชาการเรือสำหรับผู้ที่จะเป็นนายเรือเอก”
ระบุว่าพระองค์ทรงได้คะแนนด้าน Logbook and Journal
(การเขียนปูมและสมุดจดหมายเหตุประจำตัว)
ถึง 90 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100


บางส่วนจากสมุดปูมของ G.M.R. Rayne
Month of November 1897
H.M.S Revenge
Day Tues 9th
Weather. OCR Bar. 29.95 Ther. 56
anchored in Marmaris Harbour
… 8.20 Hawke arrived & anchored.
HRH Prince Abhakara joined ship …


วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2440 เวลา 10.30 น.
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงลงประจำเรือ HMS Hawke ที่มอลตา
ท่าเรือและสถานีการค้าหลักในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
มีอู่ต่อเรือและฐานทัพเรือที่ใหญ่และทันสมัยยิ่ง
วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม เรือ HMS Hawke
เดินทางออกจากมอลตา


วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2440 เวลา 8.20 น.
เรือ HMS Hawke เดินทางไปถึงเรือ HMS Revenge
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงย้ายมาประจำเรือ HMS Revenge
ทรงเริ่มต้นการฝึกหัดศึกษา ในฐานะ Midshipman
หรือ “นักเรียนทำการนายเรือ” ซึ่งจะดำเนินต่อเนื่อง
ไปอีกถึง 1 ปี 6 เดือนเศษ


HMS Revenge เป็นเรือรบที่รับใช้ราชนาวีอังกฤษอยู่ถึง 418 ปี
เพราะนาม Revenge ถูกใช้เป็นชื่อของเรือรบชั้นนำ
ของแต่ละยุคถึง 13 ลำต่อเนื่องกันมา
ลำแรกเป็นเรือรบใบต่อด้วยไม้ ประจำการเมื่อพ.ศ. 2120
ส่วนลำสุดท้ายเป็นเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์
ประจำการเมื่อ พ.ศ. 2511 และปลดประจำการเมื่อพ.ศ. 2535
ภาพถ่ายทั้ง 5 นี้ คือภาพจากสมุดปูมของ G.M.R. Rayne
เป็นภาพเรือ HMS Revenge (1892) ซึ่งคือเรือลำที่พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ทรงประจำการ


HMS Revenge (1892) ลำที่พระองค์เจ้าอาภากร เกียรติวงศ์
ทรงประจำการ ได้รับสมญานามว่า Dawn of a New Age
หรือ “อรุณรุ่งแห่งยุคใหม่” จากความสำคัญโดดเด่นในฐานะเรือชั้นนำ
ในยุคแห่งวิวัฒนาการของการก่อสร้างเรือรบที่เปลี่ยนจากยุคเรือไม้ใช้ใบสู่ยุคเรือกลไฟเหล็กกล้า


… She was part a new design concept for battleships
know as the Royal Sovereign class … at a time when
the transformation was taking place from wooden to iron hulls … With a relatively high freeboard and with
guns mounted on barbettes … equipped with 18 in amour …
proved to be highly seaworthy ….
คำบรรยายลักษณะเด่น ของเรือฝึกของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
จากหนังสือ HMS Revenge ประพันธ์โดย Alexander Stilwell
นักประวัติศาสตร์การทหาร ชาวอังกฤษ


HMS Revenge ลำที่พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงประจำการ
ปลดประจำการเมื่อ พ.ศ. 2456 จากนั้นเพียงปีเดียว
ก็กลับเข้าประจำการอีกครั้งเพื่อร่วมปฏิบัติการรบในสงครามโลกครั้งที่ 1
เนื่องจากเรือลำนี้ติดตั้งปืนเรือที่มีแสนยานุภาพสูง
เรือลำนี้ลำเดียว มีระวางขับน้ำมากกว่าผลรวมระวางขับน้ำ
ของเรือทุกลำในกรมทหารเรือสยามยุคนั้น
ภาพถ่ายปืนเรือ Revenge ภาพนี้มาจากสมุดปูมเรือ Revenge
และ Resolution มกราคม พ.ศ. 2439 – มกราคม พ.ศ. 2441
ของนาวาเอก Thomas L. Barnardiston
เก็บรักษาอยู่ที่ National Museum of the Royal Navy
ภายในฐานทัพเรือพอร์ทสมัธ


HMS Revenge (1892)
เรือประจัญบาน ชั้นที่ 1
เรือฝึกในราชนาวีอังกฤษของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ระวางขับน้ำ 14,150 ตัน
กำลังเครื่องจักร 13,000 แรงม้า
ความเร็วสูงสุด 17.5 นอต
เกราะเหล็กกล้านิคเกิล หนา 18 นิ้ว
ปืนใหญ่ ขนาด 13.5 นิ้วในป้อมคู่ 2 ป้อม
ปืนยิงเร็ว ขนาด 6 นิ้ว 10 กระบอก
ปืนยิงเร็ว ขนาด 6 ปอนด์ (57 มม.) 16 กระบอก
ปืนยิงเร็ว ขนาด 3 ปอนด์ (47 มม.) 12 กระบอก


นักเรียนทำการนายเรือ พักอาศัยกินนอนรวมกันกับนายทหารชั้นนายเรือตรี
ใน Gunroom หรือห้องโถงนายทหารชั้นผู้น้อย
แม้จะเป็นพระโอรสของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรสยาม
แต่พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ก็ย่อมทรงไม่ได้รับอภิสิทธิ์ใด ๆ
เพราะแม้แต่เจ้านายในพระราชวงศ์อังกฤษ เมื่อเข้ารับการฝึกหัดศึกษาในราชนาวี
ก็ได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกับนักเรียนอื่น ๆ เช่นกัน


การฝึกหัดศึกษาในฐานะนักเรียนทำการนายเรือ
ประกอบด้วยการศึกษาและฝึกปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ เหล่านี้
นายยามเรือจอด นายยามเรือเดิม การเรือ การเดินเรือ
การอาวุธ เชือกเสาเพลาใบ ยามในห้องเครื่องจักร ยามในห้องหมอน้ำ
ควบคุมเรือเล็ก รับใช้ผู้บังคับการเรือ รับใช้ต้นเรือ เป็นผู้ช่วยต้นหน
อธิบายโดย พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช
อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ


ระหว่างทรงฝึกหัดศึกษา HMS Revenge เป็นเรือธง
ของผู้บังคับการกองเรือ Special Flying Squadron
ซึ่งระยะแรกคือพลเรือตรี R.B. Harris และต่อมา
เปลี่ยนเป็นพลเรือตรี Gerard Henry U. Noel
ผู้มีชื่อเสียงในด้านความเข้มงวดกวดขัน
เท่ากับว่าพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงฝึกหัดศึกษา
ภายใต้ผู้บังคับบัญชา 2 ระดับ คือผู้บังคับการกองเรือดังกล่าวข้างต้น
และผู้บังคับการเรือ Revenge ซึ่งมีนามว่า
นาวาเอก Reginald Charles Prothero


… ผู้บังคับการเรือ Revenge ในเวลานั้นคือ
นาวาเอก เรจินัลด์ โปรเธโร (Reginald Charles Prothero)
ซึ่งมีฉายาว่า Prothero the Bad … ท่านผู้นี้มีชื่อเสียงในทาง “ไล่ลูกไล่”
ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นที่รู้จักกันดีในราชนาวีอังกฤษ ท่านผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่
ตาคล้ายเหยี่ยว จมูกงุ้ม เคราดำยาวลงมาถึงเอว ท่านชอบกวดขันหรือไล่ลูกไล่
ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะนักเรียนทำการ ทั้งในด้านการงาน ระเบียบวินัย
และความสะอาดเรียบร้อยของเรือ และเป็นคนชนิด “ปากว่ามือถึง” เสียด้วย
ในชั้นแรก ผู้ใต้บังคับบัญชาจะเกลียดท่านทุกคน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันไปนาน ๆ
ก็จะชอบและเคารพท่านมาก เพราะเห็นว่าท่านเป็นคนที่มีมนุษยธรรมและความยุติธรรม …
อธิบายโดย พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ
ภาพจากหนังสือ Fabulous Admirals โดย Geoffrey L. Lowis


ทศวรรษสุดท้ายของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งคือช่วงเวลาที่เสด็จไปทรงฝึกหัดศึกษา
กองเรือเมดิเตอร์เรเนียนเป็นกองเรือรบใหญ่ที่สุดในราชนาวีอังกฤษ
ประกอบด้วยเรือประจัญบานชั้น First Class ถึง 10 ลำ
และเรือรบขนาดรอง ๆ ลงมาอีกเป็นจำนวนมาก
เท่ากับว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงฝึกหัดศึกษาบนเรือรบ
ลำที่ทันสมัยที่สุด ในกองเรือที่ใหญ่ที่สุด ของกองทัพเรือที่เกรียงไกรที่สุดของโลกยุคนั้น


กองเรือ Special Flying Squadron ซึ่งมีเรือ HMS Revenge เป็นเรือธง
คือกองเรือพิเศษที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับความขัดแย้ง
ที่กำลังทวีขึ้นระหว่างประเทศต่าง ๆ ในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในภารกิจระหว่างที่พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงฝึกหัดศึกษา
ซึ่งกองเรือนี้ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปมีบทบาทร่วมกับกองเรือมหาอำนาจชาติอื่น ๆ
ในการแทรกแซงเหตุกบฏและจลาจลบนเกาะครีต เมื่อ พ.ศ. 2440


เหตุกบฏและจลาจลบนเกาะครีต ใน พ.ศ. 2440 เป็นส่วนหนึ่ง
ของความขัดแย้งที่เรียกว่า Greco-Turkish war
ซึ่งมีความเป็นมาและรายละเอียดมากมายซับซ้อน
อังกฤษและประเทศมหาอำนาจอื่นรวม 6 ชาติ ส่งกองกำลังทางทะเล
เข้าแทรกแซงเพื่อควบคุมสถานการณ์ ด้วยการสนธิกำลัง
ร่วมกันปิดล้อมเกาะและส่งทหารขึ้นไปปฏิบัติการบนเกาะ โดยในต้นเดือนเมษายน
มีทหารจากชาติต่าง ๆ ขึ้นไปตั้งมั่นบนเกาะรวมกว่า 2,500 นาย
ภาพถ่ายทั้ง 5 นี้ คือภาพจากสมุดปูมของ G.M.R. Rayne
เป็นภาพปฏิบัติการบนเกาะครีต ของทหารจากเรือ HMS Revenge


เรือ HMS Revenge คือเรือลำที่ 3 ของกระบวนเรือในภาพนี้
บทบาทของ International Squadron ต่อการแทรกแซงเหตุจลาจลบนเกาะครีต
ซึ่งมีเรือ HMS Revenge ร่วมอยู่ด้วย ดำเนินไปตั้งแต่เดือน
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2441
ข้อมูลประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่า ระหว่างช่วงเวลานี้ มีการยิงถล่มชายฝั่ง
และการปะทะกันด้วยกำลังทหารบนเกาะหลายครั้ง
หลักฐานที่อาจระบุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงรายละเอียดพระภารกิจในสนามรบ
ของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ระหว่างช่วงเวลานี้ ยังคงรอคอยการค้นคว้าต่อไป


นอกจากเรือ HMS Revenge พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ยังทรงย้ายไปฝึกหัดศึกษาในเรือลำอื่น ๆ อีกด้วย
เช่น HMS Ramillies ซึ่งเป็นเรือระดับเดียวกับ HMS Revenge และ HMS Cruiser
อันเป็นเรือรบใช้ใบ เพื่อทรงฝึกเชือกเสาเพลาใบ เป็นต้น


เราสามารถรู้ได้อย่างแน่นอนว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ทรงเป็นชาวต่างชาติเพียงน้อยรายในราชนาวีอังกฤษ
จากข้อมูลในหนังสือ Royal Navy List อันเป็นหนังสือที่รวบรวมรายชื่อ
กำลังพลทั้งหมดของกองทัพเรือ ฉบับประจำเดือน มกราคม-เมษายน พ.ศ. 2441
ในหมวด List of Foreign Officers Serving in Her Majesty’s Ship
ซึ่งระบุพระนามไว้ว่าทรงเป็นชาวต่างชาติเพียง 1 ใน 7 นายเท่านั้น


หนังสือ Royal Navy List ฉบับประจำเดือน มกราคม-เมษายน พ.ศ. 2443
ยืนยันว่าในที่สุดพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ก็ทรงเป็นชาวต่างชาติเพียงรายเดียว
ที่ฝึกหัดศึกษาอยู่ในกองทัพเรืออันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกยุคนั้น


พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ทรงฝึกหัดศึกษา
ในพระสถานะนักเรียนทำการนายเรือ
เป็นระยะเวลา 1 ปีกับอีก 178 วัน
ในหนังสือส่งพระองค์เจ้าอาภากรฯ เสด็จกลับอังกฤษ
เขียนโดยผู้บังคับการเรือ HMS Revenge มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
… His conduct has been very good and he has been most attentive to his studies and to all professional works …
ภาพถ่ายนี้ คือภาพจากสมุดปูมของ G.M.R. Rayne
เป็นภาพกำลังพลบนเรือ HMS Revenge (พ.ศ. 2435)


วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2442 พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ทรงเดินทางจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
กลับมาประทับพระบาทบนแผ่นดินอังกฤษอีกครั้ง
ณ ฐานทัพเรือเมืองพลีมัธ บนชายทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ
ในพระสถานะนักเรียนทำการนายเรือแห่งราชนาวีอังกฤษ
ผู้ผ่านการทดสอบในระดับ First Class


… พระรูปกายไม่ใคร่จะแปลกขึ้นมากนัก แต่พระกิริยาอัทยาไศรยเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
ทั้งส่วนความประพฤติพระองค์ แลส่วนการทรงเล่าเรียน
ที่ได้แลเห็นแล้วในบัดนี้ เป็นเครื่องทำให้มั่นคงในใจ
ว่าทางที่ทรงเล่าเรียนคงจะสำเร็จประโยชน์
แลได้ผลอันใหญ่ดังพระราชประสงค์นั้น …
ความตอนหนึ่งในหนังสือของพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์
กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว